เมื่อคำว่า “โป๊” ไม่ได้แปลว่าหยาบคาย
สวัสดีครับ วันนี้เราจะพาย้อนเวลากลับไปสำรวจสิ่งที่หลายคนคุ้นหูแต่ไม่ค่อยกล้าพูดกันตรงๆ อย่าง “หนังสือโป๊” ฟังชื่อแล้วหลายคนอาจเบือนหน้า หรือมองว่ามันเป็นของล่อแหลม แต่รู้ไหมครับว่าสิ่งนี้เคยเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมใต้ดินไทย ที่มีทั้งประวัติศาสตร์ ความสร้างสรรค์ และเรื่องเล่าที่น่าสนใจไม่น้อยเลย
ในอดีต หนังสือโป๊ไม่ได้มีแต่ภาพวาบหวิวเท่านั้น บางเล่มมีเรื่องราว มีบทความ มีการวาดภาพอย่างตั้งใจ เรียกว่าเป็น “หนังสือเพื่อผู้ใหญ่” ที่มีบทบาททางสังคมอยู่เงียบๆ หลายคนที่เคยสัมผัสต่างมีความทรงจำเฉพาะตัว ซึ่งวันนี้เราจะไปสำรวจกันครับ ว่าหนังสือโป๊ยุคก่อนอินเทอร์เน็ตมีเรื่องราวยังไงบ้าง
ย้อนรอยยุคทองของหนังสือโป๊ไทย
ช่วงปี 2520–2530 ถือเป็นยุคทองของหนังสือโป๊ในไทย ก่อนที่โลกออนไลน์จะเข้ามาแทนที่ ความนิยมในสมัยนั้นสูงมากจนบางร้านหนังสือมีมุมลับเฉพาะไว้ขายหนังสือประเภทนี้โดยเฉพาะ หลายคนที่โตทันยุคนั้นคงคุ้นกับการยืนเลือกหนังสือแบบหลบๆ ซ่อนๆ
สิ่งที่น่าสนใจคือ “ความลับ” คือเสน่ห์อย่างหนึ่งของหนังสือโป๊ยุคเก่า มันไม่ใช่สิ่งที่หาดูได้ง่ายๆ เหมือนทุกวันนี้ คนที่อยากได้ต้องใช้ความพยายาม ต้องมีเส้นสาย หรือรู้จักร้านที่ไว้ใจได้ คล้ายๆ กับล่าขุมทรัพย์ยังไงยังงั้น
“ใต้ดิน” แต่ไม่ “ไร้ราก” – วัฒนธรรมซ่อนตัวในที่แจ้ง
บางร้านหนังสือจะมีชั้นหนังสือที่ดูธรรมดา แต่ถ้าคุณ “รู้” คุณจะรู้ว่ามีลิ้นชักลับ หรือมุมที่มีแค่ลูกค้าประจำเท่านั้นที่เข้าถึงได้ บางที่ถึงขั้นต้องมีรหัสหรือกระซิบชื่อรุ่นหนังสือเพื่อให้เจ้าของร้านหยิบให้
ผู้อ่านหลายคนเล่าว่าการได้หนังสือโป๊มาหนึ่งเล่มในยุคนั้น เปรียบได้กับของขวัญที่หายาก และมาพร้อมกับความตื่นเต้น ทุกหน้า ทุกบท ทุกภาพ มีอารมณ์ร่วมที่เกิดจาก “ความลับ” และ “ความยากในการเข้าถึง”
ใครเป็นคนทำ? รู้จักผู้ผลิตและนักเขียนเบื้องหลัง
เบื้องหลังหนังสือโป๊หลายเล่มคือทีมงานมืออาชีพที่อยู่ในเงามืด มีทั้งนักเขียนสายบันเทิงที่ใช้ “นามปากกา” นักวาดภาพที่จบจากคณะศิลปกรรม และบรรณาธิการที่เคยทำงานสายวารสารจริงๆ มาก่อน
สำนักพิมพ์ที่ผลิตหนังสือเหล่านี้ไม่ได้มีแค่เจ้าเดียว และบางเจ้าก็เคยมีชื่อเสียงอยู่เงียบๆ ในวงการ ว่ากันว่าหลายเล่มพิมพ์ครั้งละหลักหมื่นและขายหมดอย่างรวดเร็ว
ศิลปะหรืออนาจาร? เส้นบางๆ ที่ถูกตั้งคำถาม
ปกหนังสือโป๊ในยุคนั้นหลายเล่มถูกวาดด้วยมือ และบางภาพก็สวยจนดูคล้ายโปสเตอร์งานศิลปะ จุดนี้เองที่เคยมีการถกเถียงกันในวงการว่า หนังสือโป๊คือ “อนาจาร” หรือ “ศิลปะ” กันแน่
ความน่าสนใจคือคนวาดบางคนมองว่า “ร่างกายมนุษย์” คือแบบฝึกหัดชั้นดีสำหรับศิลปิน ภาพในหนังสือเหล่านี้จึงไม่ใช่แค่เพื่อกระตุ้นอารมณ์ แต่เป็นภาพประกอบที่มีความตั้งใจจริง
เมื่อโป๊กลายเป็น “การศึกษา” แบบทางเลือก
ในยุคที่โรงเรียนไม่สอนเรื่องเพศศึกษาอย่างเปิดเผย หนังสือโป๊กลายเป็นแหล่งข้อมูลของวัยรุ่นจำนวนไม่น้อย หลายคนได้รู้จักโครงสร้างร่างกาย หรือความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงจากการอ่านหนังสือเหล่านี้ แม้จะมีการบิดเบือนอยู่บ้าง แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย
พูดง่ายๆ คือมันคือ “เพศศึกษาทางเลือก” ที่เกิดจากความจำเป็นมากกว่าความอยากรู้อย่างเดียว
ร้านเช่าวิดีโอ – ญาติสนิทของหนังสือโป๊

หลังจากหนังสือเริ่มถูกควบคุมเข้มขึ้น สื่อโป๊ย้ายรังใหม่ไปอยู่ในรูปแบบ VCD และร้านเช่าวิดีโอ ช่วงปี 2540 เป็นต้นมา ร้านเช่าแทบทุกร้านจะมีห้องลับ หรือชั้นวางที่มีกล่อง VCD ที่มีเพียงรหัส เช่น “X25” หรือ “A13”
ลูกค้าประจำจะรู้กันว่าหมายเลขไหนคือหนังแนวไหน และเจ้าของร้านก็มักจะรู้ใจลูกค้าแต่ละคนอย่างดี
โป๊ต่างประเทศ VS โป๊แบบไทยๆ – ใครชนะใจคนอ่าน


หนังสือโป๊ของไทยมีทั้งนำเข้าจากต่างประเทศ และผลิตในประเทศเอง ส่วนใหญ่แล้วสไตล์ญี่ปุ่นจะได้รับความนิยมมาก เพราะมีเนื้อเรื่องที่ยาวและอารมณ์ร่วม
แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่ชอบแบบไทยๆ เพราะมีความเป็นท้องถิ่น ใช้ภาษาไทยล้วน และบางครั้งก็มีการเขียนเล่าเรื่องแบบสะท้อนชีวิตจริงในชนบทหรือในเมืองเล็กๆ
ความลับในห้องเก็บของ – เรื่องเล่าจากเจ้าของร้าน

ใครที่เคยแอบเข้าไปซื้อหนังสือโป๊จากร้านหนังสือยุค 80s-90s คงรู้ดีว่า “ความลับ” คือหัวใจสำคัญของธุรกิจนี้ มีเจ้าของร้านหลายคนที่เก็บหนังสือไว้ในกล่องลัง หรือห้องเก็บของด้านหลัง ต้องเป็นลูกค้าประจำเท่านั้นถึงจะได้สิทธิ์เข้าไปเลือกด้วยตัวเอง
มีเรื่องเล่าหนึ่งจากเจ้าของร้านหนังสือในย่านลาดพร้าวว่า เขามีลูกค้าขาประจำที่แต่งตัวดี เป็นคนทำงานออฟฟิศ ดูภายนอกไม่ต่างจากนักธุรกิจทั่วไป แต่ทุกเย็นวันศุกร์ เขาจะมาที่ร้าน พูดเบาๆ ว่า “มีเล่มใหม่มั้ยครับ” แล้วก็จะได้เข้าไปเลือกหนังสือในห้องเก็บของลับอย่างเงียบๆ
บางร้านถึงขั้นจัด “ระบบบอกรับสมาชิก” แบบใต้ดินไว้เลย ใครสมัครก็จะได้หนังสือใหม่ๆ ส่งถึงบ้านเดือนละฉบับ แน่นอนว่าทุกอย่างต้องเก็บเป็นความลับสุดๆ ไม่เช่นนั้นอาจเจอการบุกจับจากเจ้าหน้าที่ได้
การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล
เมื่อเข้าสู่ปลายยุค 2540 อินเทอร์เน็ตเริ่มเข้ามาในชีวิตคนไทย เว็บบอร์ดต่างๆ อย่าง Pantip หรือเว็บแนว “18+” ที่เปิดแบบลับๆ ก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น หนังสือโป๊เริ่มถูกแปลงเป็นไฟล์ภาพ PDF หรือ Zip แล้วเผยแพร่ผ่านเว็บ
เว็บไซต์ยุคแรกๆ อย่าง ThaiForum หรือคลังหนังสือออนไลน์ใต้ดิน กลายเป็นแหล่งรวมของทั้งเรื่องสั้น ภาพวาด และสแกนจากหนังสือโป๊ยุคเก่า หลายคนเริ่มหันไปเสพเนื้อหาทางออนไลน์แทน เพราะเข้าถึงง่าย ไม่ต้องแอบซื้อ ไม่ต้องกลัวโดนจับ
แม้จะสะดวกขึ้น แต่บางคนกลับรู้สึกว่าเสน่ห์แบบ “ลับเฉพาะ” หายไป พออะไรง่ายเกินไป ความตื่นเต้นก็ลดลงตามไปด้วย
สื่อผู้ใหญ่ยุคใหม่ – สะดวกแต่ไม่โรแมนติก
ในยุคที่มือถือสามารถเปิดดูคลิปหรือการ์ตูนผู้ใหญ่ได้ในไม่กี่วินาที โลกโป๊กลายเป็นของธรรมดาไปเสียแล้ว เด็กรุ่นใหม่อาจไม่เข้าใจว่าเมื่อก่อนแค่จะดูหนังโป๊ซักเรื่อง ต้องใช้ความพยายามขนาดไหน
การเสพผ่านจอมือถืออาจสะดวก แต่หลายคนกลับมองว่ามันเย็นชาเกินไป ไม่มีอารมณ์ร่วม ไม่มีการรอคอย ไม่มีความตื่นเต้นเหมือนตอนถือหนังสือที่หามาได้ด้วยความยากลำบาก
ด้านมืดที่ไม่ควรมองข้าม
แม้หนังสือโป๊จะมีความน่าสนใจในเชิงวัฒนธรรม แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามันมีด้านมืด บางเนื้อหาอาจละเมิดสิทธิของผู้อื่น หรือแฝงความรุนแรงโดยไม่ได้ตั้งใจ บางเรื่องอาจตอกย้ำภาพลักษณ์ที่ไม่ดีต่อผู้หญิง หรือกลุ่มเปราะบาง
มีเสียงวิจารณ์ว่าหนังสือบางเล่มผลิตเนื้อหาโดยไม่คำนึงถึงศีลธรรม หรือจริยธรรมของสังคม ซึ่งเรื่องนี้คืออีกด้านที่ต้องพูดถึงและเรียนรู้ เพื่อทำให้อนาคตของสื่อผู้ใหญ่มีความรับผิดชอบมากขึ้น
หนังสือโป๊กับมุมมองสังคมปัจจุบัน
ทุกวันนี้ แม้หนังสือโป๊จะหายไปจากหน้าร้านทั่วไป แต่ก็ยังมีคนตามหามันอยู่ในตลาดของสะสม หรือกลุ่มคนรักของเก่ายุค 80s-90s ที่มองว่าสิ่งนี้คือหนึ่งในประวัติศาสตร์วัฒนธรรมไทยที่หายาก
สังคมปัจจุบันเริ่มพูดคุยเรื่องเพศอย่างเปิดเผยมากขึ้น แต่กลับมีการ “บล็อก” หรือ “ควบคุม” สื่อบางประเภทมากกว่าเมื่อก่อน นี่อาจสะท้อนถึงความย้อนแย้งที่น่าสนใจ ว่าทำไมเรายังไม่สามารถหาจุดพอดีระหว่าง “การให้ความรู้” กับ “การจำกัดเสรีภาพ” ได้อย่างแท้จริง
เมื่อหนังสือโป๊กลายเป็นของสะสม

ตอนนี้ หนังสือโป๊รุ่นเก่าๆ กลายเป็นของหายากและมีมูลค่าในตลาดสะสม บางเล่มราคาขึ้นไปถึงหลักพัน หรือหลักหมื่น ขึ้นอยู่กับสภาพ ความหายาก และความทรงจำที่คนอ่านมีต่อมัน
มีนักสะสมจำนวนหนึ่งที่เก็บหนังสือเหล่านี้ไว้ไม่ใช่เพื่อ “เสพ” แต่เพื่ออนุรักษ์สิ่งที่เคยเป็น “กระจกสะท้อนวัฒนธรรมไทย” ในช่วงเวลาหนึ่ง
กฎหมาย วาทกรรม และการควบคุม
สื่อโป๊ในไทยตกอยู่ภายใต้การควบคุมของกฎหมายว่าด้วยการลามกอนาจารมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นยุคหนังสือ หรือยุคอินเทอร์เน็ต ปัญหาคือคำว่า “อนาจาร” ยังไม่มีนิยามที่ชัดเจน ทำให้บางครั้งสิ่งที่เป็นศิลปะก็ถูกจัดอยู่ในหมวดผิดกฎหมายไปด้วย
การตีความกฎหมายที่กว้างเกินไป อาจทำให้เกิดการเซ็นเซอร์แบบเหมารวม ซึ่งในระยะยาวอาจไม่เป็นผลดีต่อสังคมที่อยากเติบโตอย่างมีวุฒิภาวะ
สรุปส่งท้าย – หนังสือโป๊ไม่ได้แค่โป๊
สื่อโป๊ โดยเฉพาะในรูปแบบหนังสือ ไม่ได้มีแค่ความวาบหวิว แต่มันคือภาพสะท้อนของยุคสมัย ของรสนิยม และของสังคมในช่วงเวลาหนึ่ง หนังสือเหล่านี้บอกเล่าเรื่องเพศ ความสัมพันธ์ และแม้กระทั่งความกล้าในการแสดงออก
แม้วันนี้หนังสือโป๊อาจเหลืออยู่ในกล่องเก็บของ หรือในความทรงจำของคนรุ่นก่อน แต่มันก็ยังมีคุณค่าในฐานะวัฒนธรรมใต้ดินที่ครั้งหนึ่งเคยมีชีวิตชีวา และบางครั้ง… ก็ยังมีบทบาทที่เรามองข้ามไม่ได้
Leave a Reply